- AI chatbot คือซอฟต์แวร์ที่จำลองการสนทนาเหมือนมนุษย์ โดยใช้เทคโนโลยีขั้นสูงอย่างการประมวลผลภาษาธรรมชาติเพื่อเข้าใจคำถาม วิเคราะห์เจตนาของผู้ใช้ และสร้างคำตอบที่เป็นประโยชน์
- chatbot เหล่านี้ได้รับความนิยมเพราะให้บริการได้ตลอด 24 ชั่วโมง ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายให้ธุรกิจ และสามารถจัดการงานประจำในหลายอุตสาหกรรม เช่น งานบริการลูกค้า การขาย สุขภาพ และหน่วยงานรัฐ
- AI chatbot ที่ดีควรเชื่อมต่อกับระบบอื่น ๆ ได้ (เช่น ฐานข้อมูลหรือ CRM) ใช้งานได้หลายช่องทาง รักษาบริบทของบทสนทนา และมีมาตรฐานความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวของข้อมูลที่เข้มงวด
- การสร้าง chatbot ของคุณเองต้องเริ่มจากการวางแผนสิ่งที่ต้องการให้ทำ เลือกแพลตฟอร์ม สร้าง flow การสนทนา เชื่อมต่อกับเครื่องมืออื่น ๆ ทดสอบอย่างละเอียด และติดตามผลหลังเปิดใช้งาน
มีโอกาสสูงที่คุณเพิ่งเคยคุยกับ AI chatbot หรือ AI agent เมื่อไม่นานมานี้ เทคโนโลยี Conversational AI ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา และ chatbot ก็กำลังกลายเป็นสิ่งที่พบได้ทั่วไปในหลากหลายอุตสาหกรรมและการใช้งาน
ใช้คู่มือฉบับสมบูรณ์นี้เพื่อเรียนรู้ทุกอย่างที่ควรรู้เกี่ยวกับ AI chatbot เราจะพูดถึงเรื่องต่อไปนี้:
- คำจำกัดความ
- ความนิยมที่เพิ่มขึ้นของ AI chatbot
- คำศัพท์สำคัญ
- AI chatbot ทำงานอย่างไร
- ฟีเจอร์ที่จำเป็นต้องมี
- กรณีการใช้งานทั่วไป
- ข้อดี
- วิธีสร้าง AI chatbot ของคุณเอง
ไม่ว่าคุณจะมองหาข้อมูลสรุปย่อ ๆ AI chatbot ที่ดีที่สุด หรือคำแนะนำในการปรับแต่ง chatbot ของคุณเอง คุณมาถูกที่แล้ว
AI chatbot คืออะไร?
AI chatbot (ปัญญาประดิษฐ์) คือแอปพลิเคชันซอฟต์แวร์ที่จำลองการสนทนาเหมือนมนุษย์ มักใช้เพื่อทำงานอัตโนมัติหรือให้ข้อมูลตอบคำถาม
โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากการมาของ large language models (LLMs) การใช้งาน AI chatbot ก็เพิ่มขึ้นอย่างมาก ปัจจุบันมี chatbot สำเร็จรูปที่สามารถช่วยเหลือได้ตั้งแต่ให้คำปรึกษาทางอารมณ์ ไปจนถึงช่วยหารถมือสองที่เหมาะกับคุณ
สถิติ Chatbot

ตัวเลขสรุป สถิติ chatbot ที่น่าสนใจมีดังนี้:
- 88% ของลูกค้าเคยใช้ AI chatbot ในปี 2022
- Chatbot เป็นช่องทางสื่อสารที่เติบโตเร็วที่สุดสำหรับแบรนด์ เพิ่มขึ้น 92% ระหว่างปี 2019 ถึง 2020 (Startup Bonsai)
- Chatbot สามารถตอบคำถามประจำได้ถึง 79% (IBM)
- Chatbot ช่วยบริษัทประหยัดต้นทุนบริการลูกค้าประมาณ 30% (Invesp)
- ตลาด chatbot ทั่วโลกคาดว่าจะมีมูลค่าถึง 27.3 พันล้านดอลลาร์ภายในปี 2030 (Grand View Research)
ตามรายงานของ McKinsey ในปี 2023 report "การนำ generative AI มาใช้ในงานบริการลูกค้าสามารถเพิ่มประสิทธิภาพได้คิดเป็นมูลค่า 30 ถึง 45 เปอร์เซ็นต์ของต้นทุนฟังก์ชันปัจจุบัน"
ทำไม AI chatbot ถึงได้รับความนิยมมากขึ้น?
AI chatbot มีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะในอีคอมเมิร์ซ บริษัทประกัน หรือในที่ทำงาน ความนิยมที่เพิ่มขึ้นนี้เกิดจากการที่เทคโนโลยี AI เข้าถึงได้ง่ายขึ้น
ตามรายงาน AI Index ของ Stanford (2023) การเปิดตัว large language models ที่เข้าถึงได้สาธารณะ เช่น ChatGPT ทำให้การนำ Conversational AI ไปใช้ในอุตสาหกรรมต่าง ๆ เพิ่มขึ้นอย่างมาก
ก่อนที่ OpenAI จะเปิดตัว ChatGPT ในปี 2022 การใช้ Conversational AI ยังจำกัดอยู่ในกลุ่มคนที่มีความรู้ด้านเทคโนโลยีเท่านั้น แต่หลังจากมี chatbot AI ฟรีที่ขับเคลื่อนด้วย LLMs และ API แบบโอเพ่นซอร์ส
นอกจากนี้ AI chatbot ยังมีต้นทุนต่ำ ให้บริการได้ตลอด 24 ชั่วโมง รองรับหลายภาษา และปรับแต่งได้ เมื่อใช้งานอย่างเหมาะสม AI chatbot จึงให้ผลตอบแทนที่คุ้มค่าสำหรับธุรกิจ
ตามความเห็นของ ผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรม large language models ได้ทำให้ AI เป็นประชาธิปไตยมากขึ้น โดยเปิดโอกาสให้ทุกคนสามารถโต้ตอบกับระบบที่ซับซ้อนได้ผ่านข้อความธรรมดา
รายการคำศัพท์สำคัญ
.webp)
หากคุณยังไม่คุ้นเคยกับเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ มีคำศัพท์บางคำที่คุณควรทำความเข้าใจก่อนจะเข้าใจ AI chatbot ได้อย่างถ่องแท้
ปัญญาประดิษฐ์
ปัญญาประดิษฐ์เป็นสาขาหนึ่งของวิทยาการคอมพิวเตอร์ที่มุ่งสร้างเครื่องจักรให้มีความฉลาดในระดับมนุษย์ โดยงานที่มักเกี่ยวข้อง ได้แก่ การเรียนรู้ การให้เหตุผล การแก้ปัญหา และการเข้าใจภาษาธรรมชาติ
การประมวลผลภาษาธรรมชาติ (NLP)
การประมวลผลภาษาธรรมชาติ (NLP) เป็นสาขาหนึ่งของ การเข้าใจภาษาธรรมชาติ (NLU) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ AI
NLP ช่วยให้เครื่องจักรเข้าใจ ตีความ และตอบสนองต่อภาษามนุษย์ได้อย่างมีความหมาย ไม่ได้ใช้แค่ใน AI chatbot เท่านั้น แต่ยังใช้ในเทคโนโลยีแปลภาษาและรู้จำเสียงพูดด้วย
Generative AI
Generative AI หมายถึงระบบ AI ที่สามารถสร้างข้อความ รูปภาพ วิดีโอ หรือเนื้อหาอื่น ๆ ได้
Conversational AI
Conversational AI คือสาขาหนึ่งของ AI ที่เน้นให้คอมพิวเตอร์สามารถสนทนาเหมือนมนุษย์ได้ โดยใช้การเรียนรู้ของเครื่องและ NLP เพื่อสนทนากับมนุษย์ทั้งในรูปแบบข้อความและเสียง
AI Agent
AI chatbot มีความเกี่ยวข้องกับแนวคิดของ AI agent AI agent คือซอฟต์แวร์ที่ทำงานแทนผู้ใช้ สามารถทำงานอัตโนมัติ ตัดสินใจ และโต้ตอบกับสภาพแวดล้อมอย่างชาญฉลาด
ทั้ง AI chatbot และ AI agent ต่างก็ใช้ NLP, LLMs และฐานข้อมูลเวกเตอร์ แต่มีวัตถุประสงค์และขีดความสามารถต่างกัน Chatbot เน้นโต้ตอบกับมนุษย์ ส่วน agent เน้นทำงานอัตโนมัติด้วยตัวเอง
AI chatbot หลายตัวไม่สามารถดำเนินการอัตโนมัติได้ และ AI agent บางตัวก็ไม่ได้อยู่ในรูปแบบข้อความหรือให้ผู้ใช้โต้ตอบโดยตรง
แชทบอท AI ทำงานอย่างไร?

ทุกครั้งที่ผู้ใช้โต้ตอบกับ AI chatbot จะมีหลายกระบวนการที่ซับซ้อนเกิดขึ้น โดยปกติจะเริ่มต้นเมื่อ chatbot ได้รับ trigger จากผู้ใช้
1. ข้อมูลจากผู้ใช้
โดยทั่วไป ผู้ใช้จะกระตุ้น AI chatbot ด้วยการถามคำถามผ่านข้อความหรือเสียง
อย่างไรก็ตาม AI chatbot สามารถถูกออกแบบให้ตอบสนองต่อเหตุการณ์อื่น ๆ ได้ เช่น การได้รับอีเมลจากผู้ส่งที่กำหนด หรือเมื่อ KPI บรรลุเป้าหมาย
2. การประมวลผลภาษาธรรมชาติ
เมื่อได้รับ trigger แล้ว chatbot จะใช้ NLP เพื่อแยกข้อความของผู้ใช้ออกเป็นส่วน ๆ ระบุเจตนาของผู้ใช้ และดึงข้อมูลสำคัญจากคำขอ
3. การระบุเจตนา
หลังจากประมวลผลข้อมูลแล้ว chatbot จะพิจารณาว่าผู้ใช้ต้องการอะไร เช่น แนะนำสินค้า รีเซ็ตรหัสผ่าน หรือขอคำแนะนำในการเขียนเรซูเม่
4. การสร้างคำตอบ
AI chatbot จะสร้างคำตอบโดยใช้โมเดล machine learning
5. การจัดการบริบท
ขณะสนทนากับผู้ใช้ chatbot จะติดตามบทสนทนาเพื่อรักษาบริบท ทำให้ตอบได้ตรงประเด็น
6. ดึงข้อมูล
หากผู้ใช้ถามข้อมูลเฉพาะ เช่น ราคาสินค้า รีวิวจากผู้ใช้คนอื่น หรือข้อกำหนดวันลาพักร้อนของบริษัท AI chatbot จะดึงข้อมูลที่เกี่ยวข้องมาให้
อาจทำได้โดยเชื่อมต่อกับฐานข้อมูล ดึงข้อมูลจาก Knowledge Base หรือเรียก API
7. ส่งคำตอบ
เมื่อได้คำตอบที่เหมาะสมและเป็นประโยชน์ที่สุด AI chatbot จะส่งคำตอบนั้นกลับไปยังผู้ใช้ กระบวนการนี้จะวนซ้ำจนกว่าการสนทนาจะจบลง
ฟีเจอร์ที่ AI Chatbot ควรมี
แม้เทคโนโลยีจะก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว แต่ก็ยังขาดการรับประกันคุณภาพที่ดี
โลกเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นเมื่อเทคโนโลยี AI เข้าถึงได้มากขึ้น แต่ก็ทำให้มี chatbot ที่ไร้ประโยชน์หรือใช้งานไม่เหมาะสมเพิ่มขึ้นด้วย
ความสามารถในการเชื่อมต่อ
หากแชทบอททำงานแบบแยกขาดจากระบบอื่น ประโยชน์ก็จะถูกจำกัดอย่างมาก จุดประสงค์สำคัญของแชทบอทคือความสามารถในการดำเนินการกับระบบที่มีอยู่แล้ว
ตัวอย่างเช่น แชทบอทสำหรับสร้างลีด จำเป็นต้องเชื่อมต่อกับระบบบริหารลูกค้าสัมพันธ์ (CRM) ของบริษัท เพื่อให้สามารถอัปเดตข้อมูลลูกค้าใหม่และคัดกรองลีดได้ทันที
หรืออย่าง แชทบอทสำหรับอีคอมเมิร์ซ ก็ต้องเชื่อมต่อกับ ฐานข้อมูลความรู้ ที่มีข้อมูลเกี่ยวกับสต็อกสินค้า ปัญหาการคืนสินค้า และรายละเอียดของแต่ละสินค้า/รุ่น
แพลตฟอร์มแชทบอทส่วนใหญ่จะมี การเชื่อมต่อที่ติดตั้งไว้ล่วงหน้า และแพลตฟอร์มที่ยืดหยุ่นจะเปิดโอกาสให้ผู้สร้างแชทบอทเชื่อมต่อกับระบบหรือแพลตฟอร์มใดก็ได้
การกำหนดเส้นทางด้วย LLM
แชทบอทที่ล้ำหน้าที่สุดในปัจจุบันไม่ใช่ระบบที่ยึดตามกฎแบบตายตัว แต่เป็น เอเจนต์ที่ขับเคลื่อนด้วย LLM ซึ่งเข้าใจบริบทและสร้างคำตอบที่เหมาะสมได้
สมอง LLM ช่วยให้แชทบอทของคุณเริ่มต้นด้วยฟีเจอร์ขั้นสูงมากมาย แชทบอทที่ขับเคลื่อนด้วย LLM ทุกตัวจึงเป็น แชทบอท NLP โดยธรรมชาติ ที่เข้าใจสิ่งที่ผู้ใช้ต้องการสื่อ แม้จะพิมพ์ผิดก็ตาม
การใช้งานหลายช่องทาง
แชทบอท AI ที่มีประโยชน์มากที่สุดควรใช้งานได้ในหลายช่องทาง องค์กรสามารถนำแชทบอทไปใช้บนเว็บไซต์ รวมถึง WhatsApp หรือ Facebook Messenger ได้ด้วย
การเข้าถึงผู้ใช้ในช่องทางที่พวกเขาใช้งานอยู่จึงดีที่สุด แชทบอท AI จะยิ่งมีประโยชน์เมื่อสามารถส่งอีเมลหรือ SMS ได้ด้วย
การวิเคราะห์ขั้นสูง
หากแชทบอทถูกนำมาใช้เพื่อบรรลุเป้าหมาย เช่น เพิ่มจำนวนลีด เพิ่มยอดขาย หรือช่วยเหลือด้านบริการลูกค้า ก็จำเป็นต้องมีตัวชี้วัดความสำเร็จ
ไม่ว่าองค์กรจะสร้างแชทบอทเองหรือใช้แพลตฟอร์มสำเร็จรูป ก็ต้องตั้งค่าการวิเคราะห์เพื่อวัดผลลัพธ์ของแชทบอท
การวิเคราะห์ทั่วไปจะดูจำนวนและระยะเวลาการสนทนา ส่วนการวิเคราะห์ขั้นสูงสามารถวัดรายละเอียดในทุกขั้นตอนของการทำงานของแชทบอทได้
ความปลอดภัยของข้อมูล
เช่นเดียวกับซอฟต์แวร์อื่น ๆ แชทบอท AI ต้องมีมาตรการความปลอดภัย และการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลก่อนนำไปใช้งานจริง
ความปลอดภัยของข้อมูลสำคัญมากเป็นพิเศษสำหรับแชทบอทที่จัดการข้อมูลส่วนบุคคล เช่น ชื่อ เบอร์โทรศัพท์ หรือที่อยู่ หากแชทบอทของคุณจัดการข้อมูลของบุคคลในสหภาพยุโรป จะต้อง สอดคล้องกับ GDPR ด้วย
แชทบอทที่จัดการข้อมูลสุขภาพหรือการเงินในสหรัฐฯ ก็ต้องปฏิบัติตาม ข้อบังคับ เช่น HIPAA หรือ GLBA ด้วย หากละเลยเรื่องนี้อาจถูกลงโทษอย่างหนัก
การรองรับหลายรูปแบบ
แชทบอทในอดีตเคยรองรับแค่ข้อความเท่านั้น แต่ปัจจุบันโลกไม่ได้มีแค่ข้อความอีกต่อไป
ซอฟต์แวร์แชทบอทของคุณควรรองรับ ผู้ช่วยเสียง AI และ บริการสื่อสารแบบสมบูรณ์ (RCS) ด้วย ควรมีฟีเจอร์ค้นหาด้วยภาพ เช่น เมื่อลูกค้าอัปโหลดรูปเสื้อแจ็คเก็ตที่ชอบและขอแนะนำสินค้าที่คล้ายกัน
แชทบอทบางตัวสามารถสร้างภาพหรือวิดีโอเพื่อสื่อสารได้ดีขึ้น เช่น บอทขายรถที่เปลี่ยนสีรถตามที่ลูกค้าต้องการ
กรณีการใช้งานแชทบอท AI ที่พบบ่อย

ด้วยความยืดหยุ่น แชทบอท AI สามารถนำไปใช้กับกรณีการใช้งานสนทนาอัตโนมัติได้แทบทุกแบบ
แชทบอท AI ได้รับความนิยมมานานใน กระบวนการจอง เช่น ร้านอาหาร สายการบิน และโรงแรม รวมถึงอุตสาหกรรมอื่น ๆ อย่าง เกม การผลิต และ แชทบอทเพื่อการศึกษา ที่มีการใช้งานแชทบอทเพิ่มขึ้นในหลายกรณี
แม้เราจะไม่สามารถครอบคลุมทุกการใช้งานได้ แต่ต่อไปนี้คือตัวอย่าง กรณีการใช้งานแชทบอท AI ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด
แชทบอทบริการลูกค้า
ทุกวันนี้แทบทุกคนมี แชทบอทบริการลูกค้า และด้วยเหตุผลที่ดี เพราะแชทบอท AI เหมาะกับงานบริการลูกค้าอย่างยิ่ง
แชทบอทบริการลูกค้าสามารถตอบคำถาม ให้ข้อมูล หรือแชร์วิดีโอเกี่ยวกับสินค้าได้ และยังใช้ ระบบจัดการตั๋ว AI เพื่อจัดลำดับความสำคัญและส่งต่อปัญหาได้ด้วย
แชทบอท AI สามารถช่วยลดจำนวนสายที่เข้าสู่คอลเซ็นเตอร์ได้อย่างมาก จึงเป็นหนึ่งในกรณีการใช้งานที่พบบ่อยที่สุด
แชทบอทสำหรับพนักงานภายในองค์กร
แม้แชทบอท AI ส่วนใหญ่จะใช้กับลูกค้าภายนอก แต่ตอนนี้องค์กรต่าง ๆ เริ่มนำ แชทบอทภายใน มาใช้มากขึ้น เช่น แชทบอท HR สำหรับรับคำขอลาหรือ แชทบอท IT สำหรับแก้ปัญหาเทคโนโลยีของพนักงาน
แชทบอทภายในมักเป็นจุดเริ่มต้นในการให้ความช่วยเหลือพนักงานที่ต้องการข้อมูลเกี่ยวกับกระบวนการภายใน เช่น การขอลาหยุด แจ้งลาป่วย ดูข้อมูลสวัสดิการ หรือขอความช่วยเหลือในงานต่าง ๆ
เนื่องจากกระบวนการภายใน เช่น การขอลา ต้องใช้เวลาทั้งจากพนักงานและฝ่าย HR การใช้แชทบอท AI ช่วยลดต้นทุนการดำเนินงานภายในองค์กรได้มาก
แชทบอทฝ่ายขาย
แชทบอทส่วนใหญ่ที่ใช้งานบนแพลตฟอร์มของเราเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการขายขององค์กร
แชทบอทฝ่ายขาย สามารถตอบคำถาม เปรียบเทียบรุ่น และให้ข้อมูลราคา โดยมักเป็นส่วนหนึ่งของ กระบวนการขายที่ขับเคลื่อนด้วย AI ตั้งแต่การสร้างลีดจนถึงติดตามหลังการขาย
แชทบอทขายของอาจมีหน้าตาเป็น แชทบอทร้านค้า ที่แนะนำสินค้าตามประวัติการซื้อของลูกค้า หรือเป็นวิดเจ็ตบนเว็บไซต์ที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการชำระเงิน
แชทบอทสร้างลีด
แชทบอทสร้างลีด เป็นหนึ่งในกรณีการใช้งานแชทบอท AI ที่พบบ่อยที่สุด มักจะส่งอีเมลหรือข้อความผ่าน WhatsApp หรือ Facebook Messenger และซิงค์ข้อมูลกับระบบ CRM
แชทบอทสร้างลีดอาจให้คำแนะนำหรือข้อมูล เช่น อธิบายกฎหมายที่เกี่ยวข้องในข้อพิพาท หรือแนะนำประเทศที่เหมาะกับความสนใจของผู้ใช้ แล้วจึงนำเสนอบริการเพิ่มเติมตามคำตอบของผู้ใช้
หรืออาจพูดคุยกับผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์เพื่อคัดกรองลีดก่อนนัดหมายฝ่ายขาย
แชทบอทสำหรับการจอง
การจองมักเป็นกระบวนการที่ตรงไปตรงมา แชทบอทสำหรับการจอง สามารถดูแลขั้นตอนการจองทั้งหมดได้โดยไม่ต้องใช้พนักงาน
สำหรับ แชทบอทร้านอาหาร ลูกค้าเพียงกรอกชื่อ ข้อมูลติดต่อ และเลือกวันเวลาที่ต้องการจอง หรือจะสร้างเป็น บอทตอบคำถาม ง่าย ๆ ก็ได้
แต่บางการจองก็ซับซ้อนกว่า เช่น การจองโรงแรมที่ผู้เข้าพักสามารถดูห้องว่าง สิ่งอำนวยความสะดวก และจองห้องพักได้เอง ซึ่งเหมาะกับการใช้แชทบอท AI อย่างยิ่ง
นี่จึงเป็นเหตุผลที่ แชทบอทสำหรับโรงแรม ได้รับความนิยมสูงมาก เพราะสามารถดูแลการจอง รับคำขอแม่บ้าน และขายบริการเสริมได้ องค์กรพันธมิตรของเราใช้แชทบอท AI แก้ปัญหาของแขกได้ถึง 75% โดยไม่ต้องใช้พนักงาน และขายบริการเสริมให้แขก 20% ก่อนเข้าพัก
แชทบอทราชการ
บริการภาครัฐมักล่าช้ากว่าภาคเอกชน และบางแห่งกำลังพัฒนาให้ดีขึ้นด้วยแชทบอท AI
แชทบอทราชการ ถูกนำมาใช้เพื่อช่วยประชาชนกรอกแบบฟอร์ม ตรวจสอบสถานะ ให้ข้อมูลการเลือกตั้งและการลงทะเบียนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง รวมถึงข้อมูลสุขภาพหรือขนส่งสาธารณะ
แชทบอทสำหรับสุขภาพ
วงการสุขภาพก็เป็นอีกอุตสาหกรรมที่นำแชทบอทมาใช้มากขึ้น แชทบอททางการแพทย์ มักช่วยผู้ป่วยตอบคำถามเบื้องต้น นัดหมาย หรือให้ข้อมูลเกี่ยวกับอาการและการรักษา
ด้วยการจัดการคำถามทั่วไป แชทบอทสุขภาพที่ดีจะช่วยลดภาระงานของบุคลากรทางการแพทย์ และเพิ่มโอกาสเข้าถึงข้อมูลให้กับผู้ป่วย
แชทบอทการเงิน
แชทบอทธนาคาร ไม่ใช่เรื่องใหม่ Erica ของ Bank of America เปิดตัวมาตั้งแต่ปี 2018 คอยตรวจสอบการสมัครบริการต่าง ๆ ให้คำแนะนำการใช้จ่าย และช่วยเหลือข้อมูลบัญชีหรือการโอนเงิน
แต่แชทบอทด้านการเงินไม่ได้จำกัดอยู่แค่ธนาคารเท่านั้น บาง แชทบอทด้านการเงิน ช่วยตรวจสอบการปฏิบัติตามกฎระเบียบสำหรับผู้เชี่ยวชาญด้านการเงิน ติดตามค่าใช้จ่ายให้กับธุรกิจ หรือช่วยลูกค้าเริ่มใช้งานแอปฟินเทค แชทบอทสำหรับประกันภัย อาจช่วยในกระบวนการเคลม ให้คำแนะนำเกี่ยวกับกรมธรรม์ หรือช่วยตรวจจับการฉ้อโกง
แชทบอทสำหรับอสังหาริมทรัพย์
อสังหาริมทรัพย์เป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่นำแชทบอทมาใช้มากที่สุด เพราะมีการสนทนาจำนวนมากและต้องการข้อมูลที่อัปเดตอยู่เสมอ
แชทบอทอสังหาริมทรัพย์ สามารถแนะนำอสังหาริมทรัพย์ ติดตามเอกสาร และจัดการความสัมพันธ์กับลูกค้าได้ นอกจากนี้ยังสามารถให้คำแนะนำตัวแทนเกี่ยวกับการนำเสนออสังหาริมทรัพย์หรือพื้นที่ต่าง ๆ และคัดกรองลูกค้าก่อนนัดพบกับนายหน้า
แชทบอท AI มีประโยชน์อะไรบ้าง?

แชทบอท AI ได้รับความนิยมด้วยเหตุผลหลายประการ ต่อไปนี้คือ ข้อดีของแชทบอท ที่อธิบายว่าทำไมถึงช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและการสนับสนุนได้อย่างก้าวกระโดด
ให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง
หนึ่งในจุดเด่นของแชทบอท AI คือสามารถทำงานได้ตลอดเวลา ไม่เหมือนพนักงานที่ต้องพักผ่อนหรือลาหยุด แชทบอทพร้อมช่วยเหลือลูกค้าตลอดทั้งวันทั้งคืน
การให้บริการตลอด 24 ชั่วโมงนี้ ช่วยให้ธุรกิจสามารถดูแลลูกค้าได้ทุกเมื่อที่ต้องการ เพิ่มความพึงพอใจและมั่นใจว่าไม่มีคำถามใดถูกละเลย
ประหยัดต้นทุน
ด้วยการทำงานอัตโนมัติงานประจำ แชทบอท AI สามารถลดค่าใช้จ่ายในการขยายธุรกิจได้มาก ลดความจำเป็นในการมีทีมบริการลูกค้าขนาดใหญ่ บริษัทจึงสามารถลดต้นทุนแรงงานแต่ยังคงให้บริการคุณภาพสูงได้
แชทบอท AI จัดการงานได้หลากหลายอย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยให้พนักงานมีเวลาทำงานที่ซับซ้อนมากขึ้น ผลลัพธ์คือ ลดต้นทุนการดำเนินงานและทำงานได้คล่องตัวขึ้น เหมาะกับธุรกิจทุกขนาด
การขยายขนาด
เมื่อธุรกิจเติบโต ความต้องการบริการลูกค้าก็เพิ่มขึ้น แชทบอท AI สามารถขยายขนาดรองรับการสนทนาได้มากขึ้นโดยไม่ลดประสิทธิภาพ
ไม่ว่าจะมีลูกค้าเพียงไม่กี่รายหรือเป็นพันราย แชทบอทก็สามารถดูแลได้อย่างมีประสิทธิภาพ ให้ลูกค้าทุกคนได้รับการช่วยเหลืออย่างทันท่วงที
บริการสม่ำเสมอ
แชทบอทไม่เหมือนมนุษย์ตรงที่ไม่มีวันเหนื่อยหรืออารมณ์เสีย จึงให้บริการที่มีมาตรฐานสูงเหมือนเดิมทุกครั้ง ทั้งน้ำเสียงและความถูกต้อง
บริการที่สม่ำเสมอทำให้ผู้ใช้มั่นใจว่าจะได้รับการช่วยเหลือที่เชื่อถือได้เสมอ ไม่ว่าจะเมื่อไหร่หรือมีผู้ใช้กี่คนก็ตาม ช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดีและเพิ่มความไว้วางใจในแบรนด์
การเก็บข้อมูลและวิเคราะห์ข้อมูล
แชทบอท AI ไม่ได้แค่พูดคุยกับลูกค้า แต่ยังเก็บข้อมูลสำคัญจากทุกการสนทนา ข้อมูลนี้สามารถนำไปวิเคราะห์เพื่อเข้าใจพฤติกรรม ความต้องการ และปัญหาของลูกค้าได้
ธุรกิจสามารถนำข้อมูลเชิงลึกเหล่านี้ไปปรับกลยุทธ์ พัฒนาสินค้า และปรับแต่งประสบการณ์ลูกค้าให้เหมาะสมยิ่งขึ้น
จะสร้างแชทบอท AI ของคุณเองได้อย่างไร?

ด้วยเทคโนโลยีแชทบอทฟรีที่มีอยู่มากมายในปัจจุบัน การสร้างแชทบอท AI ของตัวเองจึงง่ายกว่าที่เคย
โปรเจกต์ที่เคยสงวนไว้สำหรับนักพัฒนา ตอนนี้ใครที่มีคอมพิวเตอร์ก็สามารถสร้างแชทบอท AI ได้แล้ว
นี่คือขั้นตอนการสร้างแชทบอท AI ที่ปรับแต่งได้เองทีละขั้นตอน:
1. กำหนดขอบเขตงาน
ขั้นแรกของการสร้างแชทบอท AI คือการกำหนดขอบเขต แชทบอทของคุณจะทำอะไร? ก่อนเริ่มสร้าง ทีมของคุณควร วางกลยุทธ์แชทบอท ที่รวมถึง ผลตอบแทนที่คาดหวังจากแชทบอท ด้วย
เป้าหมายของแชทบอท AI จะกำหนดว่าต้องมีความสามารถอะไร ซึ่งจะส่งผลต่อการเลือกแพลตฟอร์มที่ใช้
ถ้าใช้แพลตฟอร์มที่ขยายความสามารถได้ คุณก็สามารถสร้างแชทบอทที่ตอบโจทย์ได้ทุกแบบตามที่ต้องการ
เมื่อกำหนดขอบเขตได้ชัดเจนแล้ว ก็ถึงเวลาต้องเลือกแพลตฟอร์ม
2. เลือกแพลตฟอร์ม
มีแพลตฟอร์มแชทบอท AI ฟรีมากมายสำหรับทุกความต้องการ คุณสามารถดูรายชื่อ 9 แพลตฟอร์มแชทบอท AI ที่ดีที่สุด ของเราได้
มีข้อควรพิจารณาหลายอย่างในการเลือกแพลตฟอร์มสำหรับโปรเจกต์ของคุณ ควรเลือกแพลตฟอร์มที่:
- มีแหล่งความรู้และคู่มือการใช้งานมากมาย เพราะทุกแพลตฟอร์มมีช่วงเรียนรู้ ควรเตรียมตัวให้พร้อม
- ตรงกับเป้าหมายของคุณ อย่าเลือก แพลตฟอร์ม AI สนทนา ที่เน้นบริการลูกค้า ถ้าคุณต้องการบอทสำหรับงานขาย
- มีเวอร์ชันทดลองฟรี เพื่อให้คุณได้ลองใช้งานก่อนตัดสินใจลงทุน
3. สร้างแชทบอท AI ของคุณ
คุณมาถึงขั้นตอนสำคัญแล้ว: มีไอเดียสำหรับแชทบอท เลือกแพลตฟอร์มได้แล้ว และพร้อมจะ สร้างแชทบอท AI ของตัวเอง
แชทบอท AI ที่คุณสร้างจะไม่เหมือนใคร เพราะคุณมีเป้าหมายและความต้องการเฉพาะตัว ส่วนหนึ่งของกระบวนการคือการทำความเข้าใจแพลตฟอร์มและนำไปปรับใช้กับแผนงานของคุณเอง
4. เชื่อมต่อระบบ
หากคุณต้องการเชื่อมต่อแชทบอท AI กับระบบหรือแพลตฟอร์มอื่น เช่น Hubspot, WhatsApp หรือเว็บไซต์ของคุณ ขั้นตอนนี้จะเป็นการผสานบอทเข้ากับระบบที่จำเป็น
ถ้าแชทบอท AI ของคุณต้องให้ข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าคงคลังของบริษัท คุณควรเชื่อมต่อกับแหล่งข้อมูลหลักขององค์กร ซึ่งมักเรียกว่า Knowledge Base
Knowledge Base อาจเป็นตาราง เอกสาร หรือเว็บไซต์ที่มีข้อมูลที่แชทบอท AI จะนำมาใช้ตอบคำถาม
ตัวอย่างเช่น แชทบอทฝ่ายบุคคลจะใช้เอกสารนโยบายหลักของบริษัทเป็น Knowledge Base เมื่อพนักงานถามวิธีจัดการสถานการณ์เฉพาะ แชทบอทจะใช้เอกสารเหล่านั้นในการตอบ
5. ทดสอบและปรับปรุง
เมื่อสร้างแชทบอท AI เสร็จแล้ว ต้องนำไปทดสอบและปรับปรุง หลายคนมองข้ามขั้นตอนนี้ แต่เป็นขั้นตอนสำคัญสำหรับการเปิดใช้งานแชทบอทที่ประสบความสำเร็จ
ไม่ว่าแพลตฟอร์มแชทบอท AI ไหนก็ตาม ควรมีตัวจำลองใน Studio ให้คุณทดลองสนทนากับแชทบอทได้ นี่คือขั้นตอนแรกของการทดสอบที่ควรทำตลอดกระบวนการสร้าง
เมื่อสร้างเสร็จ คุณสามารถส่งเวอร์ชันทดลองของแชทบอท AI ให้เพื่อนหรือเพื่อนร่วมงานผ่าน URL เพื่อทดสอบการทำงานก่อนเปิดใช้งานจริง
6. เปิดใช้งาน
เมื่อแชทบอทของคุณพร้อมใช้งานแล้ว ก็สามารถเปิดตัวสู่ผู้ใช้ได้ มีหลายวิธีในการเปิดใช้งานแชทบอท AI:
- วิธีที่นิยมที่สุดคือผ่าน webchat ซึ่งมักอยู่บนเว็บไซต์ของบริษัท
- แชทบอท SMS ที่สามารถส่งข้อความได้
- แชทบอทอีเมลที่สามารถส่ง รับ และสรุปข้อความได้
- แพลตฟอร์มอย่าง Slack หรือ Microsoft Teams
- ช่องทางแชท เช่น Telegram, WhatsApp, Instagram หรือ Facebook Messenger
7. ติดตามผล
โปรเจกต์แชทบอท AI ไม่ได้จบแค่เปิดใช้งาน—จริง ๆ แล้ว การเปิดใช้งานเป็นเพียงจุดเริ่มต้น เมื่อแชทบอทออกสู่โลกแล้ว มันก็เริ่มทำงานให้คุณทันที
แพลตฟอร์มแชทบอท AI ที่ดีควรมี การวิเคราะห์ข้อมูลแชทบอท อย่างต่อเนื่อง เช่น เวลาที่ผู้ใช้ใช้งาน หัวข้อที่ถูกถาม อัตราการกักกัน (containment rate) และแพลตฟอร์มที่ผู้ใช้เลือกใช้งาน
หากคุณต้องการเรียนรู้วิธีจัดการและพัฒนาแชทบอทหลังเปิดใช้งาน สามารถดู คอร์สฟรีเรื่องการจัดการแชทบอท ของเราได้
สร้างแชทบอท AI ได้ฟรี
แชทบอท AI กำลังได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วในองค์กรต่าง ๆ ทั้งด้านบริการลูกค้า งานภายใน และอีคอมเมิร์ซ บริษัทที่ปรับตัวช้าจะพลาดโอกาสสำคัญจากกระแส AI นี้
Botpress เป็นแพลตฟอร์มสร้างบอทที่ขยายความสามารถได้ไม่สิ้นสุด ออกแบบมาสำหรับองค์กรขนาดใหญ่ สแต็กของเราช่วยให้นักพัฒนาสามารถสร้างแชทบอทและ AI agent ที่มีความสามารถตามที่คุณต้องการได้
ชุดความปลอดภัยขั้นสูงของเราช่วยให้ข้อมูลลูกค้าปลอดภัยอยู่เสมอ และอยู่ภายใต้การควบคุมของทีมพัฒนาของคุณอย่างสมบูรณ์
หรือติดต่อ ทีมขายของเรา เพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติม
คำถามที่พบบ่อย
1. แชทบอทกับผู้ช่วยเสมือนต่างกันอย่างไร?
ความแตกต่างระหว่างแชทบอทกับผู้ช่วยเสมือนคือ แชทบอทจะใช้กับงานเฉพาะ เช่น ตอบคำถามที่พบบ่อยหรือจองนัดหมายผ่านโฟลว์ที่กำหนดไว้ ส่วนผู้ช่วยเสมือนอย่าง Siri หรือ Alexa จะใช้ AI ขั้นสูงเพื่อจัดการงานที่หลากหลาย เช่น จัดตารางเวลา หรือควบคุมอุปกรณ์อัจฉริยะด้วยเสียง
2. ตัวอย่างของแชทบอทแบบไฮบริดที่ใช้ทั้ง AI และกฎมีอะไรบ้าง?
ตัวอย่างของแชทบอทแบบไฮบริดที่ใช้ทั้ง AI และกฎ เช่น บอทบริการลูกค้าที่แนะนำผู้ใช้แก้ปัญหาแบบทีละขั้นตอน (อิงกฎ) และยังสามารถตอบคำถามแบบพิมพ์อิสระโดยใช้ NLP (อิง AI) บอทเหล่านี้ผสมผสานตรรกะกับความเข้าใจภาษาธรรมชาติเพื่อรับมือกับข้อมูลที่คาดเดาได้และไม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
3. จะปรับแต่งแชทบอทอย่างไรเพื่อให้เข้าใจเจตนาได้แม่นยำขึ้น?
เพื่อปรับปรุงแชทบอทให้เข้าใจเจตนาได้ดีขึ้น ควรฝึกบอทด้วยข้อมูลบทสนทนาจริงอย่างสม่ำเสมอ เพิ่มตัวอย่างประโยคต่อเจตนาให้หลากหลาย รวมถึงคำผิดหรือภาษาถิ่น และติดตามอัตราความสับสนเพื่อนำไปฝึกใหม่หรือปรับสมดุลเจตนาที่ซ้อนทับกัน
4. จะทำอย่างไรเพื่อให้แชทบอท AI ตอบสนองอย่างมีจริยธรรม?
เพื่อให้แชทบอท AI ตอบสนองอย่างมีจริยธรรม ควรใช้ระบบกลั่นกรองเพื่อป้องกันเนื้อหาที่ไม่เหมาะสมหรือเป็นอันตราย จำกัดหัวข้อที่อ่อนไหว ใช้ข้อมูลฝึกที่ครอบคลุม และตรวจสอบผลลัพธ์อย่างสม่ำเสมอโดยมนุษย์เพื่อป้องกันอคติ
5. เมื่อใดควรใช้มนุษย์แทนแชทบอท?
ควรเลือกใช้มนุษย์แทนแชทบอทเมื่อการสนทนาเกี่ยวข้องกับการให้กำลังใจหรือประเด็นอ่อนไหว เช่น คำปรึกษากฎหมายหรือสุขภาพจิต ส่วนแชทบอทเหมาะกับงานที่มีปริมาณมากและความเสี่ยงต่ำ เช่น ติดตามคำสั่งซื้อหรือถาม-ตอบพื้นฐาน





.webp)
