- นักการตลาดหันมาใช้แชทบอท AI มากขึ้นเพื่อสร้างลีด มีปฏิสัมพันธ์แบบเฉพาะบุคคล และขยายความสัมพันธ์กับลูกค้า เปลี่ยนการตลาดให้เป็นงานที่ใช้แรงน้อยลงแต่ได้ผลมากขึ้น
- การตลาดแชทบอทใช้บอท AI ในการพูดคุยกับผู้ใช้ โปรโมตสินค้า และกระตุ้นยอดขายในทุกช่องทาง โดยอัตโนมัติการสนทนาเพื่อสนับสนุนเป้าหมายตลอดเส้นทางลูกค้า
- แชทบอท AI เก่งในการสร้างลีด อาจเพิ่มจำนวนลีดได้ถึง 50% ด้วยการพูดคุยกับผู้เยี่ยมชมและเก็บข้อมูลติดต่ออย่างราบรื่น
- การปรับแต่งประสบการณ์ยังคงเป็นเทรนด์สำคัญของการตลาดแชทบอท โดยบอทจะสร้างประสบการณ์เฉพาะบุคคลเพื่อให้การสื่อสารดิจิทัลดูเป็นมนุษย์มากขึ้น
ในฐานะนักการตลาด ฉันทำงานกับแชทบอท AI อยู่เสมอ
และถ้าบริษัทไหนใช้ แชทบอทสำหรับองค์กร อยู่แล้ว พวกเขาก็น่าจะเริ่มใช้การตลาดแชทบอทไปบ้างแล้ว (แม้จะไม่รู้ตัวก็ตาม)
ส่วนตัวฉันคิดว่าการตลาดเป็นพื้นที่ที่น่าตื่นเต้นที่สุดสำหรับ AI
ตั้งแต่การสร้างลีด โปรโมชันเฉพาะบุคคล ไปจนถึงการดูแลลูกค้าในวงกว้าง การตลาดแชทบอทเปิดมิติใหม่ให้นักการตลาดทำงานได้มากขึ้นโดยใช้แรงน้อยลง
ในบทความนี้ ฉันจะอธิบายว่าคุณสามารถทำอะไรกับการตลาดแชทบอทได้บ้าง และจะสร้างกลยุทธ์การตลาดของคุณเองด้วย แชทบอท AI ได้อย่างไร
การตลาดแชทบอทคืออะไร?
การตลาดแชทบอทคือการใช้แชทบอท AI เพื่อโปรโมตสินค้า มีส่วนร่วมกับกลุ่มเป้าหมาย และกระตุ้นยอดขายในแพลตฟอร์มต่าง ๆ เช่น เว็บไซต์ โซเชียลมีเดีย และแอปแชท
เน้นการอัตโนมัติการสนทนาเพื่อสนับสนุนเป้าหมายการตลาดและสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การดึงลีด ดูแลลูกค้า ไปจนถึงปิดการขาย
กลยุทธ์การตลาดแชทบอทสร้างได้ง่ายหากมีเป้าหมายชัดเจน เลือกแพลตฟอร์มที่เหมาะสม และวางแผนการมีส่วนร่วมอย่างรอบคอบ
วิธีสร้างกลยุทธ์การตลาดแชทบอท

ลูกค้าหลายคนรู้สึกว่าการนำ AI มาใช้ดูน่ากลัวในตอนแรก แต่ขอแนะนำว่า ถ้าคุณมีแนวทางที่เป็นระบบและข้อมูลครบถ้วน ทุกอย่างจะง่ายขึ้นมาก
ถ้าอยากเป็นมือโปรด้านการนำแชทบอทไปใช้ ลองดู คู่มือวางแผนการใช้ AI Agent ของเราได้เลย
1. กำหนดเป้าหมาย
เริ่มต้นด้วยการถามตัวเองว่า คุณอยากให้แชทบอทของคุณทำอะไร?
คุณต้องการสร้างโอกาสทางการขาย เพิ่มยอดขาย หรือให้บริการลูกค้าหรือไม่? การตั้งเป้าหมายที่ชัดเจนจะเป็นเหมือนดาวนำทาง ช่วยกำหนดทุกการตัดสินใจในกลยุทธ์ของคุณ
ระบุให้ชัดเจน
เช่น แทนที่จะตั้งเป้าหมายว่า “เพิ่มการมีส่วนร่วม” ให้เปลี่ยนเป็น “เก็บลีดใหม่ 50 รายต่อเดือน” หรือ “ลดเวลาตอบกลับลง 30%”
เป้าหมายยิ่งชัดเจน ยิ่งวัดผลสำเร็จได้ง่าย
2. เลือกกลุ่มเป้าหมาย + ขั้นตอนในเส้นทางลูกค้า
แชทบอทของคุณจะพูดกับใคร? กลยุทธ์การตลาดที่ดีเริ่มจากการรู้จักกลุ่มเป้าหมาย
กำหนดข้อมูลประชากร ความสนใจ และปัญหาของพวกเขา เพื่อปรับบทสนทนาให้เหมาะสม
ลองพิจารณาว่าลูกค้าอยู่ในขั้นตอนไหนของกระบวนการขาย พวกเขากำลังทำความรู้จักกับสินค้าของคุณ (ขั้นต้น) กำลังพิจารณาซื้อ (ขั้นกลาง) หรือพร้อมตัดสินใจซื้อแล้ว (ขั้นปลาย)?
สิ่งนี้จะกำหนดโทนและเนื้อหาของแชทบอท – เน้นให้ข้อมูล โน้มน้าวใจ หรือกระตุ้นให้ลงมือทำ
3. เลือกแพลตฟอร์ม
แชทบอทของคุณควรไปหากลุ่มเป้าหมายในที่ที่พวกเขาอยู่
หากคุณเลือก แพลตฟอร์มแชทบอท ที่รองรับการเชื่อมต่อ (หรือมีความยืดหยุ่น) คุณสามารถเลือกได้เอง: เว็บไซต์ของคุณ, Facebook Messenger, WhatsApp หรือ SMS แพลตฟอร์มที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับว่ากลุ่มเป้าหมายของคุณใช้เวลาอยู่ที่ไหน
แต่ละแพลตฟอร์มก็มีจุดเด่นต่างกัน
เช่น แชทบอทบนเว็บไซต์เหมาะกับการนำทางผู้เยี่ยมชม ขณะที่ WhatsApp เหมาะกับการแจ้งเตือนแบบเรียลไทม์
เลือกแพลตฟอร์มที่สอดคล้องกับเป้าหมายและพฤติกรรมของกลุ่มเป้าหมายของคุณ
4. สร้างแชทบอทของคุณ
การสร้างแชทบอทเป็นขั้นตอนที่ใช้เวลามากที่สุด ฉันจะไม่ลงรายละเอียดมากที่นี่ แต่คุณสามารถอ่าน คู่มือสร้างแชทบอท AI หรือ AI agent ของเราได้
พยายามเลือกเครื่องมือหรือแพลตฟอร์มแชทบอทที่ตรงกับความต้องการทางเทคนิคของคุณ แพลตฟอร์มแชทบอทชั้นนำส่วนใหญ่ของเรา มีแพ็กเกจทดลองใช้ฟรี ให้คุณลองใช้ก่อนตัดสินใจซื้อ
ข้อดีของการตลาดแชทบอทมีอะไรบ้าง?

รองรับหลายภาษา
แชทบอทสามารถตอบกลับได้หลายภาษา ปรับรูปแบบการสื่อสารตามที่ผู้ใช้ถนัด
แชทบอทจะตรวจจับและเปลี่ยนภาษาให้ถูกต้องโดยอัตโนมัติตามที่ผู้ใช้พิมพ์มา
แชทบอทที่ขับเคลื่อนด้วย LLM (หรือที่เรียกว่า LLM agent) สามารถใช้ได้ทุกภาษาที่ LLM รองรับ เช่น ChatGPT ที่รองรับ มากกว่า 85 ภาษา
ขยายงานได้คุ้มค่า
แชทบอทจัดการสนทนาหลายรายการพร้อมกันได้ รองรับปริมาณงานสูงโดยไม่ต้องเพิ่มพนักงาน
ช่วยลดภาระทีมงานมนุษย์ด้วยการตอบคำถามทั่วไป ทำให้ขยายธุรกิจได้ในราคาที่ถูกกว่ามากเมื่อเทียบกับอดีต
ให้บริการ 24/7
แชทบอททำงานได้ตลอดเวลา ไม่เหมือนมนุษย์ สามารถช่วยเหลือได้ทันทีไม่ว่าจะอยู่เขตเวลาไหน
การที่แชทบอทพร้อมเสมอ หมายถึงไม่มีเวลารอ ทุกคำถามของผู้ใช้จะได้รับคำตอบทันที
เส้นทางลูกค้าราบรื่น
แชทบอทช่วยให้ลูกค้าได้สิ่งที่ต้องการโดยไม่ต้องคลิกไปมาให้สับสน
ต่างจากแชทบอทยุคเก่าที่ใช้งานยาก แชทบอท AI สามารถนำทางผู้ใช้ไปยังข้อมูลหรือการดำเนินการที่ต้องการได้ในไม่กี่วินาที ทำให้ประสบการณ์ราบรื่นและไม่หงุดหงิด
การเก็บข้อมูลและการวิเคราะห์เชิงลึก
การวิเคราะห์แชทบอท เป็นข้อดีที่มักถูกมองข้ามของการใช้ AI สนทนา
แชทบอทจะเก็บข้อมูลอย่างเงียบ ๆ เช่น ลูกค้าต้องการอะไร ถามอะไร และมีปฏิสัมพันธ์อย่างไร
จากนั้นแปลงข้อมูลเหล่านั้นเป็นข้อมูลที่จัดระเบียบและนำไปใช้ได้จริง ช่วยให้คุณตัดสินใจได้ดีขึ้นโดยไม่ต้องเดา
10 ตัวอย่างการใช้แชทบอทในงานการตลาด
.webp)
คุณอาจนึกภาพแชทบอทการตลาดแบบง่าย ๆ ว่าเป็นแชทบอทที่อยู่บนเว็บไซต์และพูดคุยกับผู้เยี่ยมชมเพื่อเสนอขายสินค้า
นั่นเป็นเพียงหนึ่งรูปแบบของแชทบอทการตลาด ยังมีอีกหลายวิธีที่คุณสามารถใช้ได้!
ถ้าคุณใช้ แพลตฟอร์มแชทบอท AI ที่ขยายความสามารถได้ และมีทีมงานที่สร้างสรรค์ คุณจะมีไอเดียไม่จำกัดในการนำ AI สนทนาไปใช้กับงานการตลาด
1. สร้างลีด
นี่ควรเป็นภารกิจหลักของแชทบอทการตลาดทุกตัว: การสร้างลีดด้วย AI การเก็บลีดเป็นผลพลอยได้ง่าย ๆ จากการใช้แชทบอท AI โดยเฉพาะถ้าคุณเชื่อมต่อกับระบบ CRM ขององค์กร
จากการศึกษาของ Harvard Business Review พบว่า AI สำหรับการสร้างโอกาสทางการขายสามารถ เพิ่มจำนวนโอกาสทางการขายได้ถึง 50%
แชทบอทสามารถเปลี่ยนผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์ทั่วไปให้กลายเป็นลีดคุณภาพได้โดยไม่ต้องขายตรงให้รู้สึกอึดอัด
แชทบอทจะถามคำถามที่เหมาะสมในเวลาที่เหมาะสม เก็บข้อมูลชื่อ อีเมล และความสนใจต่าง ๆ โดยทำให้การสนทนาเป็นมิตรและต่อเนื่อง เหมือนมีเซลส์มือหนึ่งทำงาน 24 ชั่วโมง
2. แนะนำสินค้า
คนส่วนใหญ่ต้องการข้อความที่ตรงใจ เช่น “นี่คือสิ่งที่คุณกำลังมองหา” มากกว่า “คุณยังดูสินค้าอยู่หรือเปล่า?”
แชทบอท AI สามารถให้คำแนะนำคล้ายกับผู้ช่วยช้อปปิ้งส่วนตัว – โดยจะวิเคราะห์พฤติกรรม ความชอบ และประวัติการซื้อ เพื่อแนะนำสินค้าที่ลูกค้าอาจยังไม่รู้ว่าต้องการ
3. กิจกรรมประกวดและแจกของรางวัล
ลองดู ตัวอย่าง จาก Absolut Vodka เมื่อปี 2013 – เพื่อโปรโมตวอดก้ารุ่นลิมิเต็ด บริษัทได้สร้าง Sven ซึ่งเป็น AI bouncer
Absolut จัดปาร์ตี้เปิดตัวสุดเอ็กซ์คลูซีฟที่ใครก็เข้าร่วมได้ ถ้าสามารถโน้มน้าว Sven ให้ปล่อยให้เข้าไปได้ ผู้ใช้พูดคุยกับ Sven ผ่าน WhatsApp เพื่อขอเข้าร่วมงาน
แม้แต่สมเด็จพระราชินีแห่งเนเธอร์แลนด์ยังส่งข้อความเสียงถึงแชทบอทของพวกเขาเลย!
4. ขอรีวิวและข้อเสนอแนะ
แชทบอทช่วยให้การรวบรวมความคิดเห็นจากลูกค้าง่ายขึ้น ด้วยการกระตุ้นให้ผู้ใช้รีวิวหรือทำแบบสำรวจหลังจากมีปฏิสัมพันธ์บางอย่าง เช่น หลังจากซื้อสินค้า นอกจากนี้ยังสามารถวิเคราะห์แนวโน้มของข้อเสนอแนะเพื่อชี้จุดที่ควรปรับปรุงได้ด้วย
5. ตัวแทนพัฒนาธุรกิจดิจิทัล (Digital BDRs)
ในฐานะตัวแทนพัฒนาธุรกิจดิจิทัล แชทบอทจะคัดกรองลูกค้าเป้าหมายโดยถามคำถามสำคัญ แบ่งกลุ่มผู้ใช้ และส่งต่อผู้ที่มีแนวโน้มสนใจให้กับทีมขาย แถมยังสามารถนัดหมายผ่านบทสนทนาได้โดยตรง
จริง ๆ แล้ว ยังมี วิธีใช้ AI เพื่อการขาย อีกมากมายผ่านตัวแทนพัฒนาธุรกิจดิจิทัล
6. การจัดการโซเชียลมีเดีย
แชทบอทสามารถเชื่อมต่อกับแพลตฟอร์มอย่าง Facebook Messenger หรือ Instagram เพื่อจัดการคำถามลูกค้า ตอบกลับอัตโนมัติ และสร้างการมีส่วนร่วมอย่างทันท่วงที
ช่วยให้แบรนด์สื่อสารกับลูกค้าได้อย่างต่อเนื่องโดยไม่ต้องทำเองทุกขั้นตอน
7. แคมเปญการตลาดผ่านอีเมล
แชทบอทช่วยเพิ่มและแบ่งกลุ่มรายชื่ออีเมลโดยสอบถามความสนใจของผู้ใช้ระหว่างการสนทนา
ยังสามารถส่งข้อความที่ปรับให้เหมาะกับแต่ละคน เพื่อให้อีเมลมีโอกาสถูกเปิดอ่านและมีส่วนร่วมมากขึ้น
ในความเป็นจริง นักการตลาดกว่า 40% เห็นว่าการใช้ AI กับอีเมลมาร์เก็ตติ้งช่วยสร้างรายได้เพิ่มขึ้น
8. การโปรโมทกิจกรรม
แชทบอทช่วยให้การโปรโมทกิจกรรมง่ายขึ้น ด้วยการตอบคำถามที่พบบ่อย แชร์ลิงก์ลงทะเบียน และส่งการแจ้งเตือน
ช่วยให้ผู้เข้าร่วมได้รับข้อมูลที่ต้องการ และเพิ่มอัตราการเข้าร่วมด้วยการติดตามผลอย่างเหมาะสม
9. การแนะนำลูกค้าใหม่
แชทบอทช่วยนำทางลูกค้าใหม่ในแต่ละขั้นตอน ลดอุปสรรคในการเริ่มต้นใช้งาน
สามารถแนะนำสิ่งที่เหมาะสม ให้คำแนะนำการใช้งาน และตอบข้อสงสัยทั่วไป เพื่อให้ลูกค้าเริ่มต้นได้อย่างราบรื่น
10. การตลาดแบบเจาะจงพื้นที่
แชทบอทสามารถปรับข้อความการตลาดให้เหมาะกับแต่ละภูมิภาคหรือกลุ่มเป้าหมาย โดยตรวจสอบจากตำแหน่งหรือภาษาของผู้ใช้
ธุรกิจจึงสามารถนำเสนอเนื้อหา โปรโมชั่น หรือคำแนะนำที่ตรงใจกลุ่มเป้าหมายในแต่ละพื้นที่ เพิ่มความเกี่ยวข้องและการมีส่วนร่วม
แนวโน้มของการตลาดด้วยแชทบอทมีอะไรบ้าง?

การตลาดด้วยแชทบอทมีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ หากทีมของคุณทำได้ดี องค์กรของคุณก็อาจเป็นผู้นำในกลยุทธ์การตลาดด้วยแชทบอทยุคใหม่
แต่ในตอนนี้ นี่คือแนวโน้มที่เห็นได้ในตลาดแชทบอทปัจจุบัน:
การปรับแต่งเฉพาะบุคคล
การปรับแต่งขั้นสูงเป็นหนึ่งใน เทรนด์ AI สำคัญ สำหรับปีที่จะถึงนี้
แชทบอทมักใช้ข้อมูลลูกค้า เช่น ประวัติการเข้าชมและความสนใจ เพื่อสร้างข้อความที่ตรงใจ—ตราบใดที่ลูกค้าสามารถเลือกไม่รับได้ คุณควรใช้เพื่อให้การสนทนาดูเป็นส่วนตัวมากขึ้น ไม่ใช่แค่ระบบอัตโนมัติ
Rob Garf รองประธานและผู้จัดการทั่วไปของ Salesforce Retail กล่าวไว้ ว่า "หัวใจคือการทำให้ประสบการณ์ดิจิทัลดูมีมนุษยธรรมมากขึ้น"
การเชื่อมต่อกับแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย
โซเชียลมีเดียเป็นช่องทางหลักในการสื่อสาร—แล้วทำไมแชทบอทของคุณจะไม่อยู่ตรงนั้นด้วยล่ะ?
แชทบอทช่วยขับเคลื่อนการตลาดด้วยการเก็บข้อมูลลูกค้าเป้าหมาย คัดกรองผู้สนใจ โปรโมทกิจกรรม ส่งเนื้อหาส่วนบุคคล และสร้างการมีส่วนร่วมทั้งบนโซเชียลมีเดียและเว็บไซต์
ผู้ช่วยเสียง
เมื่อ ผู้ช่วยเสียง ได้รับความนิยมมากขึ้นในชีวิตประจำวัน ธุรกิจต่าง ๆ ก็เริ่มนำมาใช้กับ AI ด้านการสนทนา
แชทบอทที่รองรับเสียงช่วยให้ลูกค้าติดต่อกับแบรนด์ได้ง่ายขึ้นและเป็นธรรมชาติมากขึ้น
พวกมันนำเสนอทางเลือกในการสนทนาแบบแฮนด์ฟรีสำหรับการเข้าถึงข้อมูล การตั้งคำถาม หรือการทำงานง่าย ๆ
ควรเชื่อมต่ออะไรกับแชทบอทการตลาดของฉันบ้าง?

หากต้องการใช้แชทบอทให้เกิดประโยชน์สูงสุด คุณควรเชื่อมต่อกับระบบที่เหมาะสม นี่คือตัวอย่างที่ใช้บ่อย:
ระบบ CRM
การเชื่อมต่อแชทบอทกับระบบ CRM ช่วยให้ติดตามลูกค้าและจัดการข้อมูลได้อย่างราบรื่น
แชทบอทสามารถบันทึกการสนทนา อัปเดตรายละเอียดผู้ติดต่อ และแจ้งทีมขายเมื่อถึงเวลานำลูกค้าต่อไปยังขั้นตอนถัดไป
แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย
การเชื่อมต่อกับ Facebook Messenger หรือ Instagram ช่วยให้แชทบอทพูดคุยกับผู้ใช้ได้โดยตรงในที่ที่พวกเขาใช้งานมากที่สุด
แชทบอทสามารถตอบข้อความ ความคิดเห็น และช่วยเหลือเรื่องการซื้อสินค้าได้ด้วย สร้างภาพลักษณ์ที่เป็นหนึ่งเดียวบนโซเชียลมีเดีย
แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ
แชทบอทไม่ได้แค่ทำการตลาด แต่ยังขายของได้ด้วย การเชื่อมต่อกับ Shopify หรือ WooCommerce ช่วยให้แชทบอทตรวจสอบสต็อกสินค้า ดำเนินการสั่งซื้อ และแจ้งสถานะจัดส่ง—all ในแบบเรียลไทม์
เครื่องมืออีเมลมาร์เก็ตติ้ง
แชทบอทที่เชื่อมต่อกับอีเมลสามารถเก็บอีเมลและแบ่งกลุ่มผู้ใช้ตามการสนทนา เพื่อให้แคมเปญอีเมลตรงกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น
แพลตฟอร์มวิเคราะห์ข้อมูล
การจับคู่แชทบอทกับเครื่องมือวิเคราะห์ข้อมูลช่วยให้ติดตามสถิติการมีส่วนร่วม อัตราความสำเร็จของบทสนทนา และเส้นทางการเปลี่ยนแปลงของลูกค้าได้
ข้อมูลเหล่านี้ช่วยให้ปรับปรุงทั้งแชทบอทและกลยุทธ์การตลาดโดยรวมได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เริ่มใช้แชทบอทสำหรับการตลาดในเดือนหน้า
เราถนัดที่สุดในการสร้างแชทบอทคุณภาพสูง
อนาคตของการตลาดคือ AI และแชทบอทที่ปรับแต่งและเชื่อมต่ออย่างดีสามารถเพิ่มผลกำไรของคุณได้หลายเท่า
แชทบอทที่ดีที่สุดคือแชทบอทที่ช่วยคุณประหยัดเวลาและค่าใช้จ่าย พร้อมทั้งยกระดับประสบการณ์ของผู้ใช้
ไม่ว่าคุณต้องการเพิ่มการมีส่วนร่วมของลูกค้าหรือเพิ่มยอดขาย เราพร้อมช่วยคุณสร้าง เปิดใช้งาน และติดตามแชทบอท AI ที่ออกแบบเฉพาะสำหรับคุณ
คำถามที่พบบ่อย
1. ต้องมีทักษะการเขียนโปรแกรมเพื่อสร้างแชทบอทสำหรับการตลาดหรือไม่?
ไม่จำเป็นต้องมีทักษะการเขียนโปรแกรมเพื่อสร้างแชทบอทสำหรับการตลาด แพลตฟอร์มชั้นนำอย่าง Botpress และ Intercom มีเครื่องมือที่ไม่ต้องเขียนโค้ดหรือใช้โค้ดน้อยมาก ให้คุณออกแบบ เปิดใช้งาน และจัดการบอทได้ด้วยตัวสร้างภาพและเทมเพลต
2. แพลตฟอร์มแชทบอทที่ดีที่สุดสำหรับการตลาดในปี 2025 มีอะไรบ้าง?
แพลตฟอร์มแชทบอทที่ดีที่สุดสำหรับการตลาดในปี 2025 ได้แก่ Botpress (เหมาะกับเอเจนต์ที่ใช้ LLM และปรับแต่งได้), ManyChat (สำหรับโซเชียลมีเดียและแคมเปญ WhatsApp), Intercom (สำหรับดูแลลูกค้า B2B) และ Tidio (สำหรับอีคอมเมิร์ซอัตโนมัติ) แพลตฟอร์มเหล่านี้รองรับการเชื่อมต่อ CRM, การแบ่งกลุ่มผู้ใช้, การตั้งค่าแคมเปญ และการวิเคราะห์ข้อมูลในตัว
3. แชทบอทกับเอเจนต์ AI สำหรับการตลาดมีความแตกต่างกันหรือไม่?
ใช่ มีความแตกต่างระหว่างแชทบอทกับ AI agent ในด้านการตลาด: แชทบอทมักทำงานตามขั้นตอนหรือสคริปต์ที่กำหนดไว้ล่วงหน้า ขณะที่ AI agent ใช้โมเดลภาษา (LLM) เพื่อเข้าใจคำถามปลายเปิด ปรับบทสนทนาแบบเรียลไทม์ และเปลี่ยนแปลงตามพฤติกรรมลูกค้า ทำให้เหมาะกับงานที่ซับซ้อนมากกว่า
4. ตัวชี้วัดใดที่ช่วยระบุว่าแชทบอทสามารถสร้าง Conversion ได้บ้าง?
เพื่อดูว่าแชทบอทช่วยสร้าง Conversion ได้หรือไม่ ให้ติดตามตัวชี้วัด เช่น อัตราการเปลี่ยนจากการสนทนาเป็น Conversion อัตราการเก็บข้อมูลลูกค้า อัตราการละทิ้ง/ออกจากแชท ระยะเวลาการมีส่วนร่วม และจำนวนการบรรลุเป้าหมาย (เช่น การซื้อสินค้าหรือการส่งแบบฟอร์ม) ตัวชี้วัดเหล่านี้แสดงให้เห็นว่าแชทบอทของคุณมีประสิทธิภาพในการดึงดูดผู้ใช้และนำพวกเขาผ่านกระบวนการได้ดีเพียงใด
5. จะทำอย่างไรให้แชทบอทของฉันไม่ฟังดูเหมือนหุ่นยนต์หรือพูดตามสคริปต์?
เพื่อให้แชทบอทดูเป็นธรรมชาติ ไม่เหมือนหุ่นยนต์หรือพูดซ้ำ ๆ ควรใช้ภาษาที่เป็นกันเอง เปลี่ยนรูปแบบประโยค และใส่โทนเสียงของแบรนด์ลงในคำตอบ อาจเพิ่มการปรับแต่งเฉพาะบุคคล (เช่น ชื่อจริงหรือประวัติการซื้อ) และใช้อีโมจิ (ถ้าเหมาะสม) ด้วย





.webp)
